Let's create the future of store operations!
เพิ่มผลิตภาพของร้านด้วยการวิเคราะห์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์

เปิดเผยความลับของคุณภาพงานบริการของญี่ปุ่น!
เชนใหญ่ในญี่ปุ่นต่างนำระบบนี้เข้าไปใช้ ซึ่งสร้างผลลัพธ์การปรับปรุงได้อย่างน่าทึ่ง จนทำให้เรานำมาเปิดตัวในประเทศไทย นั่นคือ ระบบ ”การวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทำงาน” วัดผลการทำงานที่ทำอยู่ โดยใช้ปัจจัยต่างๆ ในการหาตัวเลข เพื่อนำมาใช้ยกระดับการทำงาน สร้างความได้เปรียบทางการค้า

นำข้อมูลดิบที่เข้าใจยากมาตรวจสอบด้วยสายตาและคำนวนหาตัวเลข เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงการทำงานให้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน
มี Fact หลายอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้จากเพียง ”ประสบการณ์ + ความรู้สึก + เคล็ดลับ”
แยกแยะจนได้มาตรการแก้ไขและพบสาเหตุของปัญหาโดย “การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์” ที่ทำซ้ำไปมาหลายๆ ครั้ง
สร้างระบบให้นำไปทำได้จริงที่หน้างานตามหลัก “จิตวิทยาทางพฤติกรรม”
วิเคราะห์และปรับปรุง พร้อมทั้งมีขั้นตอนการทำงานให้นำไปใช้จนเกิดเป็นพฤติกรรม

การตั้งสมมุติฐาน
วางสมมุติฐานว่าจะทำวิจัยและวิเคราะห์อะไร? กับใคร? อย่างไร? เพื่อให้ได้สิ่งที่คาดหวัง โดยอ้างอิงข้อมูลจากการตรวจยืนยันสมมุติฐานการปฏิบัติงานของบริษัทชั้นนำในญี่ปุ่น

การวิจัย
หาสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพออกมาให้เห็นชัดเจน โดยจัดทำข้อมูลเป็นตัวเลข เช่นข้อมูลการเคลื่อนไหวระดับหน่วย 1/100 วินาที สายตา คำพูด อุณหภูมิ และข้อมูลสำคัญ

วิเคราะห์
หาสาเหตุให้ชัดเจนจากมุมมองหลายด้าน เช่น กลศาสตร์วิศวกรรม จิตวิทยาปัญญา ประสาทวิทยาศาสตร์ บวกกับการยศาสตร์ (IE) และ Big Data ของข้อมูลการปฏิบัติงานที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

นำเสนอแนวทางปรับปรุง ทำโมเดล
จัดทำข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ผังการวางเครื่องจักร และจัดทำโมเดลธุรกิจอีกครั้ง

ทำให้ใช้อย่างแพร่หลาย
ใช้กลไกการรับรู้และความจำ ในการทำให้กระบวนการปรับปรุงแทรกซึมลงไปในองค์กร ในระยะเวลาสั้นๆ

ประเมินผล (วัดค่า)
หาค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนกระบวนการทำงาน หรือจัดหาอุปกรณ์ ทั้งระยะสั้นและระยะกลาง
วิเคราะห์ตามโครงสร้างของ ”คน” และ ”การปฏิบัติงาน” ในหลากหลายด้าน


วิศวกรรมอุตสาหกรรม
ใช้ IE (Industrial Engineering) ในการกลั่นกรองความสิ้นเปลือง ความสูญเสีย ความบกพร่องของการเคลื่อนไหว เลย์เอาท์ เวลา สภาพแวดล้อม ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ และปรับปรุง

พฤติกรรมศาสตร์
กำหนดสมมติฐานของปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียดและความพึงพอใจ จากท่าทางและพฤติกรรมของมนุษย์ และทำการสำรวจซ้ำ เพื่อตรวจสอบสมมติฐานของปัญหาและการแก้ไข

การยศาสตร์
ระบุปัจจัยที่มีผลเปลี่ยนแปลงกับระยะเวลาทำงานและคุณภาพ โดยวิเคราะห์ตามโครงสร้างของร่างกาย ทำการออกแบบสภาพแวดล้อม อุปกรณ์จับยึด และกระบวนการทำงาน ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิผล

จิตวิทยาปัญญา
ทำให้เห็นภาพของแต่ละกระบวนการของการประมวลผลข้อมูลในการรับรู้ การเข้าใจยอมรับ การตัดสินใจ และการกระทำ การประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยระบุผลกระทบที่เกิดกับพฤติกรรม เช่น การทำผิดพลาด เป็นต้น

กลศาสตร์วิศวกรรม
การใช้เครื่องวัด เช่น อิเล็กโตรไมโอแกรม ทำให้เห็นภาพภาระของข้อต่อและกล้ามเนื้อระหว่างการทำงาน และนำมาออกแบบการทำงานที่ลดแรงและลดแรงกระแทกให้เหลือน้อยที่สุด

ประสาทวิทยาศาสตร์
ใช้เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalograph) เพื่อประเมินสถานะของคลื่นสมองให้ทำประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อออกแบบการทำงานที่ไม่ขึ้นกับจิตสำนึกหรือแรงจูงใจของบุคคล

ปรับปรุงยอดขายและผลิตภาพ
หาคำตอบของปัญหาที่ลูกค้าสังเกตเองได้ยาก และออกแบบการดำเนินงานที่ควรปรับปรุง
เพิ่มผลิตภาพให้เห็นในแบบวิทยาศาสตร์

- หาตัวเลขการเติบโตด้วยวิธีการวิจัยที่เป็นเอกลักษณ์
- หาตัวเลขของประสิทธิภาพที่มีผลกระทบอย่างมากต่อผลิตภาพ
กลั่นกรองปัญหาและวิธีแก้ไขให้เป็นรายบริษัท

- กลั่นกรองกระบวนการทำงานที่สำคัญในองค์กร คำนวณความยากง่ายของการปรับปรุง และผลการปรับปรุง
- ออกแบบหัวข้อตรววจสอบ แยกตามประเภทธุรกิจและตำแหน่งงาน และนำเสนอวิธีการวิเคราะห์ที่เหมาะสม

Kiraku (Soba)
ปรับปรุงการทำงานเพื่อลดการเสียโอกาสการขาย
จำนวนลูกค้าตอนเที่ยง เพิ่มขึ้น 420 คน/เดือน
โดยการปรับเลย์เอาท์ห้องครัว ทำให้ยอดขาย/คน/ชั่วโมง เพิ่มขึ้นประมาณ 170 บาท

Bannai (Ramen)
ปรับปรุงจำนวนการ Turn โต๊ะ
จำนวนลูกค้าตอนเที่ยง เพิ่มขึ้นประมาณ 330 คน/เดือน
ถ้าทุกร้านปรับปรุงได้ตามนี้ จำนวนลูกค้าต่อเดือนของบริษัทโดยรวม จะเพิ่มขึ้นอีก 23,100 คน
ทำจริงและเป็นโมเดลธุรกิจได้
วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของผู้มีทักษะสูงให้เห็นภาพการทำงานที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้อื่นทำซ้ำได้ คำนวณขั้นตอน เลย์เอ้าท์ และเวลาที่เหมาะสมที่สุด
จัดทำกระบวนการทำงานแบบผู้เชี่ยวชาญ ที่ทำได้ผลิตภาพสูง ให้ผู้อื่นทำซ้ำได้

- อธิบายสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทำแล้วได้ผลิตภาพ ให้เข้าใจง่ายและเห็นภาพ เพื่อนำไปให้พนักงานทำตามได้ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด
ออกแบบการทำงาน เวลาในการทำงาน และจัดคนที่เหมาะสม เพื่อปรับโมเดลธุรกิจ

- ออกแบบมาตรฐานการทำงานที่เป็นโครงสร้างหลักของโมเดลธุรกิจ การจัดอัตราแรงงาน หน้าที่ ขั้นตอนการทำงาน โดยการคำนวณภาระงาน ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์


Matsuya (Gyudon)
วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของพนักงานที่เป็น Benchmark ปรับปรุงความเร็วในการบริการ
ลดเวลาได้ 12 วินาที/เมนู ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 1,200 บาท/วัน
ถ้าทุกร้านปรับปรุงได้ตามนี้ ยอดขาย/เดือนของบริษัทโดยรวม จะเพิ่มขึ้นอีก 43 ล้านบาท (คิดจาก 1,200 บาท x 1,196 สาขา x 30 วัน ณ เดือน 3 ปี 2022)

ช่วยทำให้การใช้งานเผยแพร่ได้เร็ว
แจ้งข้อมูลของพนักงานให้รับรู้ และสื่อสารได้อย่างราบรื่น
สร้างเครื่องมือและคอนเทนต์ที่จะทำให้การใช้แพร่หลาย

- จัดทำการทำงานแบบใหม่ เพื่อให้พนักงานทำได้
- จัดทำโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ให้ตรงกับทักษะที่ควรมีตามหน้าที่ของงานและตำแหน่ง
ถ้าเพียงแค่บอก จะไม่ทำเป็นนิสัย

- ใช้แพลทฟอร์มออนไลน์เพื่อให้เกิดการทบทวนซ้ำ
- ย่นเวลาการสอน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

J-Clinic
ผลที่ได้จากการทำคู่มือและนำมาใช้สอนพนักงาน ทำให้พนักงานเข้าใจในงานมากขึ้น ทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น
จำนวนลูกค้าคนไทย
ปี 2018 เฉลี่ยเดือนละ ประมาณ 200 คน
ปี 2020 เฉลี่ยเพิ่มเป็นเดือนละประมาณ 500 คน